ภูมิทัศน์อุตสาหกรรมฟิตเนสของจีน

ปี 2023 ถือเป็นปีที่ไม่ธรรมดาสำหรับอุตสาหกรรมฟิตเนสของจีนอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพของผู้คนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความนิยมในการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศก็ยังคงไม่หยุดยั้ง อย่างไรก็ตาม นิสัยและความชอบด้านฟิตเนสของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปกำลังสร้างความต้องการใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมฟิตเนสกำลังเข้าสู่ช่วงปรับเปลี่ยน- ฟิตเนสมีความหลากหลาย มีมาตรฐาน และเฉพาะทางมากขึ้นปฏิวัติรูปแบบธุรกิจของโรงยิมและฟิตเนสคลับ

ตามรายงานข้อมูลอุตสาหกรรมฟิตเนสจีนประจำปี 2022 โดย SantiCloud พบว่าจำนวนสถานออกกำลังกายและกีฬาทั้งหมดลดลง โดยมีประมาณ 131,000 แห่งทั่วประเทศในปี 2022 ซึ่งรวมถึงคลับฟิตเนสเชิงพาณิชย์ 39,620 แห่ง (ลดลง5.48%) และฟิตเนสสตูดิโอ 45,529 แห่ง (ลดลง12.34%).

ในปี 2022 เมืองใหญ่ๆ (รวมถึงเมืองระดับ 1 และเมืองระดับ 1 ใหม่) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3.00% สำหรับฟิตเนสคลับ โดยมีอัตราการปิดตัวลง 13.30% และอัตราการเติบโตสุทธิ-10.34%. สตูดิโอออกกำลังกายในเมืองใหญ่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3.52% อัตราการปิดตัว 16.01% และอัตราการเติบโตสุทธิ-12.48%.

ตลอดปี 2023 ยิมแบบดั้งเดิมมักประสบปัญหาทางการเงิน โดยที่ปัญหาที่เห็นได้ชัดที่สุดคือแบรนด์ฟิตเนสชั้นนำอย่าง TERA WELLNESS CLUB ที่มีสินทรัพย์มูลค่าเกือบ100ล้านเงินหยวนถูกอายัดเนื่องจากข้อพิพาทเรื่องเงินกู้ เช่นเดียวกับ TERA WELLNESS CLUB ยิมชื่อดังหลายแห่งต้องปิดตัวลง โดยมีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับผู้ก่อตั้ง Fineyoga และ Zhongjian Fitness ที่หลบหนีในขณะเดียวกัน เซีย ตง ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอร่วมของ LeFit กล่าวว่า LeFit มีแผนที่จะขยายไปยังร้านค้า 10,000 แห่งใน 100 เมืองทั่วประเทศภายใน 5 ปีข้างหน้า

เป็นที่ชัดเจนว่าแบรนด์ฟิตเนสชั้นนำกำลังเผชิญกับกระแสการปิดตัวลง ในขณะที่สตูดิโอฟิตเนสขนาดเล็กยังคงขยายตัวต่อไปข่าวเชิงลบได้เปิดเผยถึง 'ความเหนื่อยล้า' ของอุตสาหกรรมฟิตเนสแบบดั้งเดิม ซึ่งค่อยๆ สูญเสียความเชื่อมั่นจากสาธารณชน อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้แบรนด์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยปัจจุบันต้องจัดการกับผู้บริโภคที่มีเหตุผลมากขึ้น ถูกบังคับให้พัฒนาตัวเอง และปรับปรุงรูปแบบธุรกิจและระบบบริการของตนเองอย่างต่อเนื่อง.

จากการสำรวจพบว่า 'การสมัครสมาชิกรายเดือน' และ 'จ่ายตามการใช้งาน' เป็นวิธีการชำระเงินที่ผู้ใช้ฟิตเนสในเมืองชั้นนำนิยมใช้ รูปแบบการชำระเงินรายเดือนซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าไม่เป็นที่นิยม กลับกลายมาเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมและได้รับความสนใจอย่างมาก

การชำระเงินรายเดือนและรายปีต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย การชำระเงินรายเดือนมีประโยชน์หลายประการ เช่น ลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่สำหรับแต่ละร้าน ลดภาระทางการเงินของคลับ และเพิ่มความปลอดภัยของเงินทุน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้ระบบการชำระเงินรายเดือนไม่ใช่แค่การเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงินเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการดำเนินงานในวงกว้างขึ้น ผลกระทบต่อความไว้วางใจของลูกค้า มูลค่าแบรนด์ อัตราการรักษาลูกค้า และอัตราการแปลง ดังนั้น การเปลี่ยนมาใช้การชำระเงินรายเดือนอย่างเร่งรีบหรือไม่รอบคอบจึงไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาแบบเหมารวม

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การชำระเงินรายปีช่วยให้สามารถจัดการความภักดีต่อแบรนด์ในหมู่ผู้ใช้ได้ดีขึ้น แม้ว่าการชำระเงินรายเดือนอาจช่วยลดต้นทุนเริ่มต้นในการดึงดูดลูกค้าใหม่แต่ละราย แต่โดยไม่ได้ตั้งใจก็อาจทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงจากการชำระเงินรายปีเป็นรายเดือนนี้บ่งชี้ว่าประสิทธิผลของแคมเปญการตลาดเดียว ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำสำเร็จเป็นรายปี อาจต้องใช้ความพยายามมากขึ้นถึง 12 เท่า ความพยายามที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านไปสู่การชำระเงินรายเดือนอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับคลับฟิตเนสแบบดั้งเดิม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างกรอบงานของทีมและระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน วิวัฒนาการนี้เปลี่ยนจากการเน้นเนื้อหาไปเป็นการเน้นผลิตภัณฑ์ และในที่สุดก็เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการดำเนินงาน. มันเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การวางแนวทางการให้บริการซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมจากแนวทางที่เน้นการขายไปสู่แนวทางที่ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าหัวใจสำคัญของการชำระเงินรายเดือนคือแนวคิดเรื่องการปรับปรุงบริการ ซึ่งแบรนด์และผู้ประกอบการสถานที่ต้องให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้ามากขึ้น โดยสรุป ไม่ว่าจะใช้รูปแบบรายเดือนหรือแบบเติมเงินการเปลี่ยนแปลงในวิธีการชำระเงินบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่กว้างขึ้นจากการเน้นการขายเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เน้นการบริการเป็นอันดับแรก

ยิมแห่งอนาคตกำลังพัฒนาไปสู่ความเยาว์วัย การบูรณาการทางเทคโนโลยี และความหลากหลาย ประการแรก ในสังคมของเราในปัจจุบันการออกกำลังกายกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่วัยรุ่นโดยทำหน้าที่เป็นทั้งกิจกรรมทางสังคมและเป็นวิธีการพัฒนาตนเอง ประการที่สอง ความก้าวหน้าของ AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ อื่นๆ พร้อมที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมกีฬาและฟิตเนส

ประการที่สาม มีแนวโน้มที่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาจะขยายความสนใจของตนให้ครอบคลุมถึงกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า และวิ่งมาราธอนมากขึ้นประการที่สี่ มีการบรรจบกันของอุตสาหกรรมอย่างเห็นได้ชัด โดยเส้นแบ่งระหว่างการฟื้นฟูร่างกายด้วยกีฬาและการออกกำลังกายเริ่มเลือนลางลงเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น พิลาทิส ซึ่งโดยปกติเป็นส่วนหนึ่งของภาคการฟื้นฟูร่างกาย ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ข้อมูลของ Baidu บ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมพิลาทิสจะมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่งในปี 2023 คาดการณ์ว่าภายในปี 2029 อุตสาหกรรมพิลาทิสในประเทศจะมีอัตราการเจาะตลาด 7.2% โดยมีขนาดตลาดเกิน 5 หมื่นล้านหยวน กราฟด้านล่างแสดงข้อมูลโดยละเอียด: 

นอกจากนี้ ในแง่ของการดำเนินธุรกิจ มีแนวโน้มว่าบรรทัดฐานจะเปลี่ยนไปเป็นโครงสร้างการชำระเงินอย่างต่อเนื่องภายใต้สัญญา การกำกับดูแลทางการเงินผ่านความร่วมมือด้านสถานที่และธนาคาร และการควบคุมนโยบายการชำระเงินล่วงหน้าของรัฐบาล วิธีการชำระเงินในอนาคตในอุตสาหกรรมอาจรวมถึงค่าธรรมเนียมตามระยะเวลา ค่าธรรมเนียมต่อครั้ง หรือการชำระเงินสำหรับแพ็คเกจคลาสแบบรวม ความโดดเด่นในอนาคตของรูปแบบการชำระเงินรายเดือนในอุตสาหกรรมฟิตเนสยังคงต้องพิจารณากันต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมจากแนวทางที่เน้นการขายไปสู่รูปแบบที่เน้นการบริการลูกค้า การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นเส้นทางที่สำคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมฟิตเนสของจีนภายในปี 2024

29 ก.พ. – 2 มี.ค. 2567

ศูนย์นิทรรศการนานาชาติแห่งใหม่เซี่ยงไฮ้

งานมหกรรมสุขภาพ ความสมบูรณ์ของร่างกาย และฟิตเนสเซี่ยงไฮ้ ครั้งที่ 11

คลิกและลงทะเบียนเพื่อร่วมจัดแสดง!

คลิกและลงทะเบียนเพื่อเข้าชม!